ทำความเข้าใจเหตุใดแมวทำหมันจึงอ้วนและวิธีการดูแล

การทำหมันแมวเป็นการควบคุมประชากรแมว การลดความเสี่ยงในการเกิดโรค และการลดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การร้องหาคู่และการหนีออกจากบ้าน อย่างไรก็ตาม การทำหมันจะทำให้แมวส่วนมากมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น เราจึงควรต้องเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีการดูแลแมวหลังทำหมันไม่ให้น้ำหนักเกิน กลายเป็น “แมวอ้วน”

ทำไมแมวที่ทำหมันจึงอ้วน..สงสัยกันบ้างไหม

หนึ่งในผลกระทบที่พบได้บ่อยหลังจากการทำหมันแมวคือการเพิ่มน้ำหนัก แมวที่ทำหมันมักจะมีแนวโน้มที่จะอ้วนขึ้นเนื่องจากหลายปัจจัย เช่น 

1.การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน 

การทำหมันจะลดการผลิตฮอร์โมนทางเพศ เช่น เอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรน ซึ่งมีผลต่อระบบการเผาผลาญ แมวที่ทำหมันมักมีการเผาผลาญพลังงานที่ลดลง ทำให้เกิดการสะสมไขมันในร่างกายได้ง่ายขึ้น 

2.การทำกิจกรรมน้อยลง

แมวที่ทำหมันมักจะมีพฤติกรรมที่สงบลงและไม่กระตือรือร้นในการออกไปหาคู่หรือแสดงพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผสมพันธุ์ ทำให้ใช้พลังงานน้อยลง  

3.มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น

การทำหมันอาจมีผลกระทบต่อสมองที่ควบคุมความอยากอาหาร ทำให้แมวรู้สึกหิวบ่อยขึ้นและมีการกินมากขึ้น 

การดูแลแมวที่ทำหมัน 

เพื่อป้องกันและควบคุมการเพิ่มน้ำหนักหลังการทำหมัน เจ้าของควรให้ความสำคัญกับการดูแลและจัดการโภชนาการและการออกกำลังกายของแมว ดังนี้: 

1.ควบคุมปริมาณอาหาร 

การควบคุมปริมาณอาหารที่ให้แมวเป็นสิ่งสำคัญ ควรให้แมวกินอาหารในปริมาณที่เหมาะสมตามน้ำหนักและอายุของแมว ควรหลีกเลี่ยงการให้อาหารมากเกินไปหรือให้แมวเข้าถึงอาหารได้ตลอดเวลา  

2.เลือกอาหารที่เหมาะสม

เลือกอาหารสูตรพิเศษสำหรับแมวที่ทำหมัน ซึ่งมีปริมาณแคลอรี่ที่ต่ำกว่าและมีส่วนผสมที่ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก  

3.การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ควรกระตุ้นให้แมวออกกำลังกายและเล่นกิจกรรมต่าง ๆ เป็นประจำจะช่วยเผาผลาญพลังงานและควบคุมน้ำหนักของแมวได้ จัดสรรเวลาให้แมวได้เล่นหรือใช้ของเล่นที่กระตุ้นการเคลื่อนไหว เช่น ลูกบอล ของเล่นที่มีเสียง หรือเสาให้แมวข่วน  

4.การติดตามน้ำหนักและสุขภาพ

ควรติดตามน้ำหนักของแมวเป็นประจำ หากพบว่าแมวน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากเกินไป ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนการดูแลและโภชนาการให้เหมาะสม 

การทำหมันแมวควบคุมประชากรและลดความเสี่ยงในการเกิดโรค แต่สิ่งที่ตามมาคือปัญหาเรื่องของน้ำหนักและ การดูแลแมวที่ทำหมันให้มีสุขภาพดีจึงต้องให้ความสำคัญกับโภชนาการที่เหมาะสม การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และการตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต