5 เทคนิคทำความสะอาดพรมรถเปียกชื้นด้วยตัวเอง

ใกล้หน้าฝนแล้ว หลายๆพื้นที่ต้องเจอกับปัญหาฝนตกหนัก น้ำไม่สามารถระบายได้ ทำให้ปริมาณน้ำสูงจนเข้ารถยนต์ ทำเอาคนรักรถอย่างเราปวดใจและปวดหัว น้ำซึมเข้าพรมเปียกชื้น และยังส่งกลิ่นเหม็นอับ จะไปจ้างเขาล้างพรมก็ราคาหลายพัน วันนี้เราจึงมีวิธีทำความสะอาดพรมชื้นและกลิ่นอับมาฝากคะ ไม่อยากอย่างที่คิด

วิธีทำความสะอาดพรมที่เปียกชื้น ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับภายในรถ มีขั้นตอนดังนี้ 

1.ถอดอุปกรณ์ต่างๆ ออกเพื่อถอดพรมออกมาทำความสะอาด หากมีเครื่องมือและความชำนาญในการถอดพรม โดยเฉพาะเบาะไฟฟ้าที่มีสายไฟเชื่อมต่อก็สามารถทำเองได้ โดยให้ถอด พรม อุปกรณ์ต่างๆ ที่เปียกชื้นออก เพื่อให้พื้นในรถไม่มีจุดให้น้ำขังอีกต่อไป  

2.กรณีถอด พรม เบาะ ออกจากรถแล้ว ก็ควรทำความสะอาดและทำให้แห้งเร็วที่สุดด้วยการตากแดดแรงๆ 2-3 วัน ส่วนจุดที่ชื้นแฉะในห้องโดยสาร ต้องซับน้ำออกให้หมด แล้วใช้ไดร์เป่าให้แห้งสนิท เสร็จแล้วก็ขับไปจอดตากแดดแรงๆ เหมือนเดิมสัก 2-3 วัน เวลาจอด ควรเปิดประตูทิ้งไว้ เพื่อทำให้ภายในแห้งสนิท จะได้ไม่มีกลิ่นอับชื้น  

3.ในกรณีที่ไม่สามารถถอดอุปกรณ์ที่เปียกชื้นออกมาได้ เพียงคุณ เปิดประตูรถออกทุกบาน ลดกระจกลงให้สุด จอดรถตากแดดเอาไว้อย่างน้อย 2 วัน  

4.นำพรม เบาะ ออกมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย ตากแดดทิ้งไว้จนแห้งสนิท ประมาณ 2 วัน อย่าเพิ่งรีบเอากลับไปใช้ถ้ายังไม่แห้งสนิทดี เพราะอาจทำให้มีกลิ่นอับได้ 

5.กรณีที่เป็นช่วงที่ไม่มีแดด ให้ใช้พัดลมเป่าความร้อนช่วยไล่ความชื้น ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวัง ค่อย ๆ เป่าลมไปเรื่อย ๆ เพราะอาจทำให้พรมไหม้ได้ และที่สำคัญต้องมั่นใจว่าพรมนั้นแห้งจริง ๆ 

กลิ่นอับชื้นหลังน้ำท่วมยังอยู่ทำอย่างไร

ในกรณีภายในและอุปกรณ์ต่างๆ ที่โดนความชื้นแห้งไม่สนิท ทำให้มีกลิ่นอับอยู่ อาจใช้ตัวช่วย เช่น ถ่านดูดกลิ่นและความชื้น สเปรย์ดับกลิ่น การบูรเพื่อดับกลิ่นอับ เป็นต้น  หากใช้วิธีดังกล่าวแล้วกลิ่นยังไม่หายแนะนำให้เอารถกลับไปตากแดดต่อ จนกว่าจะแห้งสนิท หากไม่อยากเสียเวลาตากแดดอีกสามารถนำรถไปอบโอโซนที่ศูนย์บริการได้ กลิ่นอับชื้นจะดีขึ้น 

เป็นยังไงบ้าง สำหรับวิธีทำความสะอาดเมื่อน้ำเข้ารถและการกำจัดกลิ่นอับชื้นภายในรถเบื้องต้น ช่วยให้รถสะอาด ไร้กลิ่นอับและประหยัดเงินที่จะต้องนำรถเข้าศูนย์ ขับรถหน้าฝนควรหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังจะดีที่สุด